เกร็ดความรู้ของ
ดอกกุหลาบ
กุหลาบนั้นมีชื่อสามัญว่า "Rose" ชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า "Rosa hybrids" และมีชื่อวงศ์ว่า "Rosaceae" ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง ลักษณะของกุหลาบนั้นมีทั้งไม้พุ่มและไม้เลื้อย ลำต้นและกิ่งจะมีหนาม ส่วนดอกของกุหลาบจะมีทั้งดอกเดี่ยวและเป็นช่อ กลีบดอกมีลักษณะใหญ่ มีไม่ต่ำกว่า 5 กลีบ กุหลาบนั้นมีกลิ่นหอมชวนดม และมีหลายสี เช่น แดง ขาว เหลือง ชมพู ฯลฯ อีกทั้งยังมีหลายชนิดด้วย
ซึ่งคำว่ากุหลาบนั้นมาจากคำว่า "คุล" ที่ในภาษาเปอร์เซียแปลว่า "สีแดง ดอกไม้ หรือดอกกุหลาบ"โดยในภาษาฮินดีก็มีคำว่า "คุล" แปลว่า "ดอกไม้" และคำว่า "คุลาพ" ก็หมายถึงกุหลาบอย่างที่ไทยเราเรียกกัน แต่ออกเสียงเป็น "กุหลาบ" ส่วนคำว่า "Rose" ในภาษาอังกฤษนั้นมาจากคำว่า "Rhodon" ที่แปลว่ากุหลาบในภาษากรีก
ดอกกุหลาบ
ประวัติดอกกุหลาบ
กุหลาบเกิดขึ้นเมื่อ 70 ล้านปีมาแล้ว และเคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยแต่ก่อนกุหลาบนั้นเป็นกุหลาบป่าและมีรูปร่างไม่เหมือนในทุกวันนี้ แต่เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์จนขยายเป็นพันธุ์ต่างๆ มากมาย
ตามประวัติศาสตร์เล่าว่า กุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรดิ ในสมัยราชวงศ์ฮั่น ราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์ก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอกส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน เพราะชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมาก แม้ว่าจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้วก็ตาม แต่ก็ยังลงทุนสร้างสถานที่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย เพราะสำหรับชาวโรมันแล้วดอกกุหลาบนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน อีกทั้งชาวโรมันถือว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เป็นทั้งของขวัญ และเป็นดอกไม้สำหรับทำมาลัยต้อนรับแขก รวมถึงเป็นดอกไม้สำหรับงานฉลองต่างๆ แถมยังเป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม
ทำไวน์ และยาได้อีกด้วย
ประวัติดอกกุหลาบในประเทศไทย
แม้จะไม่มีการบันทึกอย่างชัดเจนว่าดอกกุหลาบนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องกับบ้านเราตอนไหน แต่จากบันทึกของ ลา ลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้บันทึกไว้ว่า เห็นกุหลาบที่กรุงศรีอยุธยา และในกาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศกสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ก็ได้มีการกล่าวถึงกุหลาบเอาไว้ และยังมีตำนานดอกกุหลาบของไทยที่เป็นบทละครพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6 เรื่อง มัทนะพาธา ในเรื่องเล่าถึงเทพธิดาองค์หนึ่งชื่อ "มัทนา" ซึ่งได้มีเทพบุตรองค์หนึ่งชื่อ "สุเทษณ์" ซึ่งพระองค์ทรงหลงรักเทพธิดา "มัทนา" มาก แต่นางไม่มีใจรักตอบ จึงถูกสาปให้ไปเกิดเป็นดอกกุหลาบ จึงกลายเป็นตำนานดอกกุหลาบแต่นั้นมา
สีกุหลาบสื่อความในใจ
สีแดง
สื่อความหมายถึง "รักคุณเข้าแล้ว" ความรักและความปรารถนา เป็นดอกไม้ของกามเทพ คิวปิด และอีรอส เป็นสิ่งนำโชคนำความรักมาให้แก่หญิงหรือชายที่ได้รับ
สีชมพู
สื่อความหมายถึง "ฉันจะรักและดูแลคุณตลอดไป" ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์
สีขาว
สื่อความหมายถึง "ฉันรักคุณด้วยความบริสุทธิ์ใจ" ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ มิตรภาพ และความสงบเงียบ และนำโชคมาให้แก่หญิงหรือชายเช่นเดียวกับกุหลาบแดง
สีเหลือง
สื่อความหมายถึง "เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอนะ"
สีส้ม
สื่อความหมายถึง "ฉันรักคุณเหมือนเดิมนะ"
จำนวนกุหลาบสื่อความหมาย
1 ดอก รักแรกพบ
2 ดอก แสดงความรู้สึกที่ดีให้กัน
3 ดอก ฉันรักเธอ
7 ดอก คุณทำให้ฉันหลงเสน่ห์
9 ดอก เราสองคนจะรักกันตลอดไป
10 ดอก คุณเป็นคนที่ดีเลิศ
11 ดอก คุณเป็นสมบัติที่มีค่าชิ้นเดียวของฉัน
12 ดอก ขอให้เธอเป็นคู่ของฉันเพียงคนเดียว
13 ดอก เพื่อนแท้เสมอ
15 ดอก ฉันรู้สึกเสียใจจริง ๆ
20 ดอก ฉันมีความจริงใจต่อเธอ
21 ดอก ชีวิตนี้ฉันมอบเพื่อเธอ
36 ดอก ฉันยังจำความหลังอันแสนหวาน
40 ดอก ความรักของฉันเป็นรักแท้
99 ดอก ฉันรักเธอจนวันตาย
100 ดอก ฉันอุทิศชีวิตนี้เพื่อเธอ
101 ดอก ฉันมีคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น
108 ดอก คุณจะแต่งงานกับฉันไหม
999 ดอก ฉันจะรักคุณจนวินาทีสุดท้าย
กุหลาบแดงเข้ม (สีเหมือนไวน์แดง) "เธอช่างมีเสน่ห์งามเหลือเกิน"
กุหลาบตูมสีแดง "ฉันเริ่มรักเธอแล้วจ้ะ"
กุหลาบบานสีแดง "ฉันรักเธอเข้าแล้ว"
กุหลาบสีแดงที่โรยแล้ว "ความรักของเรานั้นจบลงแล้ว"
ความหมายดอกกุหลาบอื่น ๆ
กุหลาบตูมสีขาว "เธอช่างไร้เดียงสาน่าทะนุถนอมเหลือเกิน ฉันรักเธอ"
กุหลาบสีขาวที่โรยแล้ว "เสน่ห์ของเธอมันเริ่มลดน้อยถอยลงแล้วนะจ๊ะ"
กุหลาบตูม สื่อความหมายถึง ความงามและความเยาว์วัย